“นวัตกรรม” (Innovation) มีรากศัพท์มาจาก innovare
ในภาษาลาติน แปลว่า ทำสิ่งใหม่ขึ้นมา ความคิด การปฏิบัติ
หรือสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่ยังไม่เคยมีใช้มาก่อน
หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงมาจากของเดิมที่มีอยู่แล้ว ให้ทันสมัยและใช้ได้ผลดียิ่งขึ้น
เมื่อนำ
นวัตกรรมมาใช้จะช่วยให้การทำงานนั้นได้ผลดีมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงกว่าเดิม
ทั้งยังช่วย ประหยัดเวลาและแรงงานได้ด้วย
ดังนั้น
นวัตกรรมอาจหมายถึงสิ่งใหม่ๆ ดังต่อไปนี้
1.
สิ่งใหม่ที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยทำมาก่อนเลย
2.
สิ่งใหม่ที่เคยทำมาแล้วในอดีตแต่ได้มีการรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่
3.
สิ่งใหม่ที่มีการพัฒนามาจากของเก่าที่มีอยู่เดิม
นวัตกรรม แบ่งออกเป็น 3
ระยะ คือ
ระยะที่ 1 มีการประดิษฐ์คิดค้น (Innovation) หรือเป็นการปรุงแต่งของเก่าให้เหมาะสมกับกาลสมัย
ระยะที่ 2 พัฒนาการ (Development) มีการทดลองในแหล่งทดลองจัดทำอยู่ในลักษณะของโครงการทดลองปฏิบัติก่อน (Pilot Project)
ระยะที่ 3 การนำเอาไปปฏิบัติในสถานการณ์ทั่วไป ซึ่งจัดว่าเป็นนวัตกรรมขั้นสมบูรณ์
ระยะที่ 1 มีการประดิษฐ์คิดค้น (Innovation) หรือเป็นการปรุงแต่งของเก่าให้เหมาะสมกับกาลสมัย
ระยะที่ 2 พัฒนาการ (Development) มีการทดลองในแหล่งทดลองจัดทำอยู่ในลักษณะของโครงการทดลองปฏิบัติก่อน (Pilot Project)
ระยะที่ 3 การนำเอาไปปฏิบัติในสถานการณ์ทั่วไป ซึ่งจัดว่าเป็นนวัตกรรมขั้นสมบูรณ์
ความหมายของนวัตกรรมทางการศึกษา
(Educational Innovation
"นวัตกรรมการศึกษา" การนำสิ่งใหม่ๆ ซึ่งอาจจะเป็นความคิด
วิธีการ หรือการกระทำ หรือสิ่งประดิษฐ์ขึ้น ทั้งในส่วนที่ไม่เคยมีมาก่อน
หรือเป็นการพัฒนาดัดแปลงจากสิ่งที่มีอยู่แต่เดิม ให้ดีขึ้น โดยอาศัยหลักการ ทฤษฎี ที่ได้ผ่านการทดลองวิจัยจนเชื่อถือได้นำมาดำเนินการหรือสนับสนุน
ส่งผลให้การเรียนรู้ มีประสิทธิภาพสูงสุด
ลักษณะของนวัตกรรมการศึกษา
แนวคิดเกี่ยวกับลักษณะของนวัตกรรมการศึกษาไว้ 5 ลักษณะ คือ
1. ความคิดหรือการกระทำใหม่นั้น อาจจะเก่ามาจากที่อื่น แต่ในสภาพการณ์ปัจจุบันในบางแห่งอาจจะเหมาะสมที่จะนำมาใช้ เช่น การสอนเป็นทีม การเรียนจากเครื่องช่วยสอน เป็นต้น
2. ความคิดหรือการกระทำใหม่นั้น ทั้งที่ครั้งหนึ่งเคยนำมาใช้แล้ว แต่บังเอิญไม่เกิดผล เพราะสิ่งแวดล้อมไม่อำนวย แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง มีความพร้อมในการใช้ความคิดนั้น ก็นำแนวความคิดนั้นมาใช้ กลายเป็นนวัตกรรมขึ้น เช่น ระบบการสื่อสารมวลชนที่นำมาใช้ เกี่ยวกับการสอนทางวิทยุและโทนทัศน์เพื่อการศึกษา เป็นต้น
3.ความคิดหรือการกระทำใหม่ เพราะมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาพร้อมๆกับความคิดที่อยากจะทำสิ่งใหม่ๆพอดี และช่วยแก้ไขปัญหาทางการศึกษาได้ เป็นความหมายที่แท้จริงของนวัตกรรมการศึกษา
4. ความคิดหรือการกระทำใหม่นั้น ครั้งหนึ่งเคยถูกผู้บริหารคัดค้านไม่ให้กระทำ และในปัจจุบันได้รับการสนับสนุนให้กระทำ ก็จัดว่าเป็นนวัตกรรมการศึกษา
5. ความคิดหรือการกระทำใหม่นั้นมีการดำเนินการใหม่จริงๆ ยังไม่มีผู้ใดจัดทำมาก่อน
1. ความคิดหรือการกระทำใหม่นั้น อาจจะเก่ามาจากที่อื่น แต่ในสภาพการณ์ปัจจุบันในบางแห่งอาจจะเหมาะสมที่จะนำมาใช้ เช่น การสอนเป็นทีม การเรียนจากเครื่องช่วยสอน เป็นต้น
2. ความคิดหรือการกระทำใหม่นั้น ทั้งที่ครั้งหนึ่งเคยนำมาใช้แล้ว แต่บังเอิญไม่เกิดผล เพราะสิ่งแวดล้อมไม่อำนวย แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่ง มีความพร้อมในการใช้ความคิดนั้น ก็นำแนวความคิดนั้นมาใช้ กลายเป็นนวัตกรรมขึ้น เช่น ระบบการสื่อสารมวลชนที่นำมาใช้ เกี่ยวกับการสอนทางวิทยุและโทนทัศน์เพื่อการศึกษา เป็นต้น
3.ความคิดหรือการกระทำใหม่ เพราะมีสิ่งใหม่ๆเข้ามาพร้อมๆกับความคิดที่อยากจะทำสิ่งใหม่ๆพอดี และช่วยแก้ไขปัญหาทางการศึกษาได้ เป็นความหมายที่แท้จริงของนวัตกรรมการศึกษา
4. ความคิดหรือการกระทำใหม่นั้น ครั้งหนึ่งเคยถูกผู้บริหารคัดค้านไม่ให้กระทำ และในปัจจุบันได้รับการสนับสนุนให้กระทำ ก็จัดว่าเป็นนวัตกรรมการศึกษา
5. ความคิดหรือการกระทำใหม่นั้นมีการดำเนินการใหม่จริงๆ ยังไม่มีผู้ใดจัดทำมาก่อน
ประเภทของนวัตกรรมการศึกษา
1. นวัตกรรมการศึกษาที่ยึดแนวคิดความพื้นฐานเป็นหลัก
2. นวัตกรรมการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา
1. นวัตกรรมการศึกษาที่ยึดแนวคิดความพื้นฐานเป็นหลัก
2. นวัตกรรมการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา
1. นวัตกรรมการศึกษาที่ยึดแนวความคิดพื้นฐานเป็นหลัก
สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภท คือ
1. ความแตกต่างระหว่างบุคคล (Individual
Difference)
2.ความพร้อม(Readiness)
3. การใช้เวลาเพื่อการศึกษา (Use of
Time)
4. การขยายตัวทางวิชาการ-การเปลี่ยนแปลงจำนวนประชากร
2. นวัตกรรมการศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษา
สามารถแบ่งได้เป็น 5 ด้าน คือ
1. นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร
2. นวัตกรรมการเรียนการสอน
3. นวัตกรรมสื่อการสอน
4. นวัตกรรมการประเมินผล
5. นวัตกรรมการบริหารจัดการ
1. นวัตกรรมทางด้านหลักสูตร
2. นวัตกรรมการเรียนการสอน
3. นวัตกรรมสื่อการสอน
4. นวัตกรรมการประเมินผล
5. นวัตกรรมการบริหารจัดการ
เทคโนโลยี
เทคโนโลยีตรงกับคำภาษาอังกฤษว่า "Technology" ซึ่งมาจากภาษากรีกว่า
"Technologia" แปลว่า การกระทำที่ระบบ ความหมายของเทคโนโลยี คือ วิทยาการที่เกี่ยวกับศิลปะในการนำเอวิทยาศาสตร์ประยุกต์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางปฏิบัติและอุตสาหกรรมหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเครื่องจักรกล
สิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ทาง อุตสาหกรรม ถ้าในแง่ของความรู้ เทคโนโลยีจะหมายถึง
ความรู้หรือศาสตร์ที่เกี่ยวกับเทคนิคการผลิตในอุตสาหกรรม และกิจกรรมอื่น ๆ
ที่จะเอื้ออำนวยต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ หรืออาจสรุปว่า เทคโนโลยี คือ
ความรู้ที่มนุษย์ใช้
ระดับของเทคโนโลยี
1. เทคโนโลยีระดับเบื้องต้น สามารถจัดหาได้ภายในประเทศ หรือสามารถพัฒนาขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น เช่น ตู้เย็น โทรศัพท์ เป็นต้น
2. เทคโนโลยีระดับกลาง มักต้องซื้อจากต่างประเทศ แต่สามารถพัฒนาได้ภายในประเทศ หากมีแผนการพัฒนาที่ต่อเนื่อง เช่น โทรทัศน์ เครื่องเสียง เป็นต้น
3. เทคโนโลยีระดับสูง ต้องซื้ออุปกรณ์จากต่างประเทศ แต่สามารถใช้งานโดยคนไทย หากพัฒนาในประเทศจะต้องซื้อเทคโนโลยีแกนจากต่างประเทศ เช่น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ เป็นต้น
4. เทคโนโลยีระดับสูงมาก ต้องซื้ออุปกรณ์ และทักษะการใช้งานจากต่างประเทศ เช่น ระบบคมนาคมสื่อสารขนาดใหญ่
ความหมายของเทคโนโลยีทางการศึกษา
เทคโนโลยี (Technology) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก คือ
Tech = Art ในภาษาอังกฤษ
Logos = A study of
ดังนั้น คำว่า เทคโนโลยี จึงหมายถึง A study of art ซึ่งได้มีผู้แปลความหมาย
สรุป ได้ว่าเทคโนโลยี หมายถึง การนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์
และระเบียบวิธีทางวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการพัฒนาและปฏิบัติงาน
อย่างเป็นระบบ โดยสามารถนำไปใช้ในสาขาต่าง ๆ กัน และเรียกชื่อไปตามสาขาที่ใช้
ความสำคัญของเทคโนโลยีการศึกษาของประเทศไทย
การนำเอาเทคโนโลยีการศึกษามาใช้นั้น
ส่วนใหญ่นำมาใช้ในการแก้ปัญหา ในด้านการศึกษาก็เช่นเดียวกัน
เพราะปัญหาทางด้านการศึกษามากมาย เช่น
- ปัญหาผู้สอน
- ปัญหาผู้เรียน
- ปัญหาด้านเนื้อหา
- ปัญหาด้านเวลา
- ปัญหาเรื่องระยะทาง
นอกจากนั้นการนำเทคโนโลยีการศึกษามาใช้ในการเรียนการสอน ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเรียนการสอน และเพิ่มประสิทธิผลทางการศึกษาอีกด้วย
- ปัญหาผู้สอน
- ปัญหาผู้เรียน
- ปัญหาด้านเนื้อหา
- ปัญหาด้านเวลา
- ปัญหาเรื่องระยะทาง
นอกจากนั้นการนำเทคโนโลยีการศึกษามาใช้ในการเรียนการสอน ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพทางการเรียนการสอน และเพิ่มประสิทธิผลทางการศึกษาอีกด้วย
สารสนเทศ
ความหมายของสารสนเทศ
สารสนเทศ
อ่านว่า สาระ-สน-เทศ
สาร
หรือ สาระ เป็นคำประกอบหน้าคำ แปลว่า สำคัญ
· สนเทศ
หมายถึง คำสั่ง ข่าวสาร ใบบอก
· สารสนเทศ
จึงหมายถึงข่าวสารที่สำคัญ เป็นระบบข่าวสารที่กำหนดขึ้น
และจัดทำขึ้นภายในองค์การต่างๆ ตามความต้องการของเจ้าของหรือผู้บริหารองค์การนั้นๆ
·
สารสนเทศ
ตรงกับคำในภาษาอังกฤษว่า Information คำว่า
Information นั้น
พจนานุกรมเวบสเตอร์ ให้ความหมายไว้ว่า ความรู้ที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า สารสนเทศ เป็นความรู้และข่าวสารที่สำคัญที่มีลักษณะพิเศษ
ทั้งในด้านการได้มาและประโยชน์ในการนำไปใช้ปฏิบัติ
จึงได้มีการประมวลความหมายของสารสนเทศไว้ใกล้เคียงกัน
สารสนเทศ คือ ข้อมูลที่ได้ผ่านกระบวนการประมวลผลแล้ว อาจใช้วิธีง่าย ๆ เช่น
หาค่าเฉลี่ยหรือใช้เทคนิคขั้นสูง เช่น การวิจัยดำเนินงาน เป็นต้น
เพื่อเปลี่ยนแปลงสภาพข้อมูลทั่วไป
ให้อยู่ในรูปแบบที่มีความสัมพันธ์หรือมีความเกี่ยวข้องกัน
เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจหตือตอบ ปัญหาต่าง ๆ ได้
สารสนเทศประกอบด้วยข้อมูลเอกสาร เสียง หรือรูปภาพต่างๆ แต่จัดเนื้อเรื่องให้อยู่ใน
รูปที่มีความหมาย สารสนเทศไม่ใช่จำกัดเฉพาะเพียงตัวเลขเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
ในส่วนขององค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้หากพิจารณาได้ใน
2 ลักษณะ คือ
1.องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ พิจารณาเชิงเทคโนโลยี
จะประกอบด้วยเทคโนโลยี 2 สาขาหลัก คือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
1.
เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่าง
ๆ และปฏิบัติตามคำสั่งที่บอก เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้
คอมพิวเตอร์นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเชื่อมกันเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นี้จะต้องทำงานร่วมกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือที่เรียกกันว่า
ซอฟต์แวร์ (Softwareเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
ใช้ในการติดต่อ สื่อสาร รับ-ส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง
เป็นการส่งของข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์หรือเครื่องมือที่อยู่ห่างไกลกัน
ซึ่งจะช่วยให้การเผยแพร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผู้ใช้ในแหล่งต่าง ๆ
เป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน และทันการณ์ ซึ่งรูปแบบของข้อมูลที่รับ/ส่งอาจเป็นตัวเลข
(Numeric Data) ตัวอักษร
(Text) ภาพ (Image) และเสียง (Voice)
เทคโนโลยีที่ใช้ในการสื่อสารหรือเผยแพร่สารสนเทศ ได้แก่
เทคโนโลยีที่ใช้ในระบบโทรคมนาคมทั้งชนิดมีสายและไร้สาย เช่น ระบบโทรศัพท์, โมเด็ม, แฟกซ์, โทรเลข,
วิทยุกระจายเสียง, วิทยุโทรทัศน์
เคเบิ้ลใยแก้วนำแสง คลื่นไมโครเวฟ และดาวเทียม เป็นต้น
2.องค์ประกอบของเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้
พิจารณาเชิงระบบ
จะพบว่าระบบสารสนเทศจะประกอบด้วยองค์ประกอบต่างที่จะนำพาให้ระบบสารสนเทศทำงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ มี 4 ส่วนคือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล บุคคลากร โดยมีดังนี้
จะพบว่าระบบสารสนเทศจะประกอบด้วยองค์ประกอบต่างที่จะนำพาให้ระบบสารสนเทศทำงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ มี 4 ส่วนคือ ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล บุคคลากร โดยมีดังนี้
-
ฮาร์ดแวร์ (Hardware)
- ซอฟต์แวร์ (Software)
- ข้อมูล(Data)
- บุคลากร (People)
ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้สังคมเปลี่ยนจากสังคมอุตสาหกรรมมาเป็นสังคมสารสนเทศและทำให้ระบบเศรษฐกิจเปลี่ยนจากระบบแห่งชาติไปเป็นเศรษฐกิจโลก
ที่ทำให้ระบบเศรษฐกิจของโลกผูกพันกับทุกประเทศ
ความเชื่อมโยงของเครือข่ายสารสนเทศทำให้เกิดสังคมโลกาภิวัฒน์
จุดกำเนิดของเทคโนโลยีสารสนเทศ
หากจะกล่าวถึงจุดกำเนิดของเทคโนโลยีกันแล้ว
ในทางทฤษฎีของกระบวนการหรือวิธีการนั้น ก็คงเป็นเรื่องที่ยาก ต่อการอธิบาย
แต่หากเรามามองถึงปัจจัยทางโครงสร้างนั้นจะพบว่าเป็นการหลอมรวมกันระหว่าง เทคโนโลยี กับ สารสนเทศ ที่เป็นระบบของข้อมูลของแต่ละแขนงเข้าด้วยกัน ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีสารสนเทศ เกิดจากการรวมตัวของ
เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์และ เทคโนโลยีโทรคมนาคม เข้าด้วยกัน ได้แก่
เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์
ในด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ เป็นเทคโนโลยีที่มีความต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน กล่าวคือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ถือเป็นวิวัฒนาการส่วนขยาย ที่แตกแขนงออกมา และกลายเป็นเส้นทางที่ยิ่งใหญ่ แผ่กระจายออกไปในหลายมิติ
ในด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ และคอมพิวเตอร์ เป็นเทคโนโลยีที่มีความต่อเนื่องเกี่ยวพันกัน กล่าวคือ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ถือเป็นวิวัฒนาการส่วนขยาย ที่แตกแขนงออกมา และกลายเป็นเส้นทางที่ยิ่งใหญ่ แผ่กระจายออกไปในหลายมิติ
เทคโนโลยีโทรคมนาคม
ในส่วนของเทคโนโลยีโทรคมนาคม มีปัจจัยหรือองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ 3 ส่วนคือ เทคโนโลยีเครือข่าย เทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูล และเทคโนโลยีการสื่อสาร
เทคโนโลยีเครือข่าย
โดยเฉพาะเครือข่าย Integrated services digital network : ISDN ที่วางมาตรฐานสำหรับการรวมเครือข่ายโทรศัพท์และเครือข่ายข้อมูลที่เคยแยกกัน บริการเสียงและข้อมูลจะถูกรวม (Integrated) บนเครือข่าย ISDN เนื่องจากทั้งเสียงและข้อมูลจะได้รับการแปลงเป็นดิจิตอลบิต (Digital Bit) เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ข้อจำกัดในการสื่อสารข้อมูลบนเครือข่ายโทรศัพท์หมดไป ผู้ใช้สามารถพูดคุยและส่งข้อมูลจำนวนมากบนสายเดียวกัน ประกอบกับการที่เครือข่ายดังกล่าวใช้เทคนิคการส่งผ่านข้อมูลและการสลับสายที่ก้าวหน้าที่เรียกว่า Asynchronous Transfer Mode : ATM จะส่งผลให้บริการสื่อมัลติมีเดียในระบบดิจิตอล (Digitized multi-media) ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูล (Telecommunications Transmission Technology)
โดยเฉพาะเครือข่าย Integrated services digital network : ISDN ที่วางมาตรฐานสำหรับการรวมเครือข่ายโทรศัพท์และเครือข่ายข้อมูลที่เคยแยกกัน บริการเสียงและข้อมูลจะถูกรวม (Integrated) บนเครือข่าย ISDN เนื่องจากทั้งเสียงและข้อมูลจะได้รับการแปลงเป็นดิจิตอลบิต (Digital Bit) เช่นเดียวกัน ส่งผลให้ข้อจำกัดในการสื่อสารข้อมูลบนเครือข่ายโทรศัพท์หมดไป ผู้ใช้สามารถพูดคุยและส่งข้อมูลจำนวนมากบนสายเดียวกัน ประกอบกับการที่เครือข่ายดังกล่าวใช้เทคนิคการส่งผ่านข้อมูลและการสลับสายที่ก้าวหน้าที่เรียกว่า Asynchronous Transfer Mode : ATM จะส่งผลให้บริการสื่อมัลติมีเดียในระบบดิจิตอล (Digitized multi-media) ทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เทคโนโลยีการส่งผ่านข้อมูล (Telecommunications Transmission Technology)
เป็นเทคโนโลยีที่รองรับกระบวนการส่งผ่านข้อมูล
ด้วยปริมาณและความเร็ว อาทิเทคโนโลยีไมโครเวฟ เทคโนโลยีดาวเทียม
และเทคโนโลยีเคเบิลใยแก้ว ล้วนแต่ได้รับการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว
โดยเฉพาะเคเบิลใยแก้วนำแสงหนึ่งใยแก้ว สามารถนำสัญญานการพูดคุยโทรศัพท์ 30,000
สัญญาณได้พร้อมกันในเวลาเพียงแค่ 0.1 mm in diameter ซึ่งในสายเคเบิลเส้นหนึ่งประกอบไปด้วยเส้นใยแก้วมากมาย
เทคโนโลยีการสื่อสาร (Telecommunications Transmission Technology)
เทคโนโลยีการสื่อสาร (Telecommunications Transmission Technology)
เป็นเทคโนโลยีที่รองรับกระบวนการส่งผ่านข้อมูล ด้วยปริมาณและความเร็ว
อาทิเทคโนโลยีไมโครเวฟ เทคโนโลยีดาวเทียม และเทคโนโลยีเคเบิลใยแก้ว
ล้วนแต่ได้รับการพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะเคเบิลใยแก้วนำแสงหนึ่งใยแก้ว
สามารถนำสัญญานการพูดคุยโทรศัพท์ 30,000 สัญญาณได้พร้อมกันในเวลาเพียงแค่
0.1 mm in diameter ซึ่งในสายเคเบิลเส้นหนึ่งประกอบไปด้วยเส้นใยแก้วมากมาย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น